นวัตกรรมการตลาดแห่งอนาคต

เมื่อเดือนสิงหาคม2550 ที่ผ่านมา สมาคมขายตรงไทย TDSA ร่วมกับมูลนิธิเพื่อการศึกษาการขายตรง ( Direct Selling Education Fund : DSEF ) สหรัฐอเมริกา จัดสัมนา “การขายตรง : นวัตกรรมการตลาดแห่งอนาคต” เพื่อผลักดันหลักสูตรขายตรงสู่ระบบการศึกษา ของประเทศไทย ในการสัมนาได้เรียนเชิญ คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งประเทศ 28 สถาบัน มาร่วมสัมนาเพื่อทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับธุรกิจขายตรง

ธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นตลอด ตั้งแต่ปี 2540 ฟองสบู่ประเทศไทยแตก ยังมีมูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้าน และขยายตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันมาจนถึงขอมูลล่าสุด เมื่อเดือนกรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา ธุรกิจขายตรงในประเทศไทยมีมูลค่าการตลาดสูงถึง 4.3 หมื่นล้านบาท และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 13 ของโลก ทั้งยังมีผู้คนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงนี้ร่วม 8 ล้านคนแล้ว


โดยประเทศผู้นำโลกอย่างอเมริกานั้น ได้มีการจัดหลักสูตรการศึกษา ให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจขายตรง เข้าสู่สถาบันการศึกษามาแล้วกว่า 20 ปี ทั้งยังมีการจัดคอร์สให้ผู้บริหารของบริษัทขายตรง ได้มีโอกาสเข้าไปแชร์ประสบการณ์และให้ความรู้ในธุรกิจให้กับนักศึกษาได้ทราบ ถึงห้องเรียนโดยมีข้อตกลงว่า จะต้องไม่มีการหวังผลชักชวนเข้าธุรกิจของตน จนทำให้มีการแตกแขนงของคอร์สเรียนรู้ ออกไปอีกจำนวนมาก อีกทั้งยังมีงานวิจัยเพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ มาประมวลผลเพื่อประโยชน์ต่อวงการขายตรง

แต่เมื่อย้อนกลับมามองแวดวงวิชาการ การศึกษาในเมืองไทยเรา ยังมีน้อยมากที่เจาะจงเรื่องธุรกิจขายตรง เรียกได้ว่ายังถูกนักวิชาการมองข้ามความสำคัญมาโดยตลอดหลังจากที่เข้าร่วมสัมนาครั้งนี้ หนึ่งในคณาจารย์ที่เดินทางมาร่วมสัมนาได้กล่าวว่า “จริง ๆ แล้วขายตรงเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของแต่ละคนมานานแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมา เราไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือขายตรง อะไรคือลูกโซ่ คนที่เข้าร่วมธุรกิจจะได้ประโยชน์อะไร มีความเสี่ยงขนาดไหน ไม่เคยมีการมาบอกว่า อะไรดี ไม่ดีอย่างไร “

นับว่าเป็นแนวโน้มที่ดีของตลาดขายตรงในประเทศไทยเรา ที่จะพัฒนาการตลาดขายตรงให้ก้าวหน้าขึ้นไปเรียกได้ว่าเป็น นวัตกรรมการตลาดแห่งอนาคตที่จะเป็นการสร้างโอกาสอีกมากมายให้กับคนไทย